“ไม่ขี้” ไม่ใช่เรื่องขี้ๆ
อาการของโรคท้องผูกคือ ถ่ายยาก ถ่ายน้อย ไม่ถ่ายทุกวัน ลักษณะอุจจาระ เป็นก้อนกลมเล็ก ไม่เป็นลำยาว อาจทำให้ท่านรู้สึกอึดอัด หงุดหงิด หากท้องผูกเป็นเวลานานหลายปี จะก่อให้เกิดโรคใหม่โดยที่ท่านไม่รู้ตัว ทฤษฏีการแพทย์แผนไทยได้กล่าวถึงอาการของโรคที่เกิดใหม่ดังนี้ กินอาหารได้น้อย นอนไม่หลับ ปวดถ่วง ปวดเมื่อยตัว แน่นอก มึนศีรษะ หงุดหงิดง่าย ร้อนใน แผลในปาก เสียดชายโครงและเสียดท้อง หากท่านมีอาการเหล่านี้ให้พิจารณาว่ามีอาการท้องผูกด้วยหรือไม่ อาการดังกล่าวนับเป็นโรคกษัย (โรคที่เกิดซ้ำๆเป็นเวลานานๆ) ชนิดหนึ่ง และมักทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารตามมา
ต้นเหตุของโรคเกิดจาก การไม่ขับถ่ายทุกวันทำให้เกิดอุจจาระหมักหมมเกาะติดบริเวณผนังลำไส้ เหมือนตะกรันเรียกว่า “เถาดาน” ทำให้ผนังลำไส้หนาขึ้นในขณะที่ลมเบ่งเพื่อขับอุจจาระออกเท่าเดิม จึงไม่สามารถขับอุจจาระออกได้หมด เกิดเป็นพิษภัยของอุจจาระที่ค้างในลำไส้ ถ้าอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้นานเกิน 24 ชั่วโมงจะบูดและก่อพิษ ผนังลำไส้จะดูดพิษกลับเข้าสู่ร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะเข้าไปในเส้นเอ็น ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย และก่อโรคต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ โรคท้องผูกยังอาจนำไปสู่โรคร้ายที่ผู้ป่วยเป็นกังวลกันมาก คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่นอกจากขับถ่ายของเสียแล้ว ยังทำหน้าที่ดูดไขมันส่วนเกินออกจากเลือด ถ้าผนังลำไส้ไม่สะอาด ก็ดูดไขมันได้ไม่ดี ทำให้มีไขมันส่วนเกินค้างในเลือด
ในปัจจุบันมีความสนใจขับล้างลำไส้กันมากซึ่งมีหลากหลายวิธี ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการขับล้างลำไส้ด้วยยาสมุนไพร ชื่อยาธรณีสัณฑฆาต เป็นยาที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ สรรพคุณช่วยขับล้างเถาดานในลำไส้ ทำให้ลำไส้สะอาด ช่วยเสริมลมเบ่งให้สามารถขับอุจจาระได้ดีขึ้น อาการท้องผูกก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ส่วนแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคท้องผูก ทำได้โดยกินอาหารที่มีกากใยมากๆ เช่น ผักผลไม้ โดยเฉพาะ ผักผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว เสาวรส มะม่วงเปรี้ยว มะดัน มะขามเปรี้ยว กระเจี๊ยบแดง เป็นต้น จะช่วยให้ขับถ่ายได้ดี
หรือเมื่อเริ่มมีอาการท้องผูก ในเบื้องต้น มีสมุนไพรเดี่ยวบางชนิด มีสรรพคุณช่วยระบาย เช่น ชุมเห็ดเทศ มะขามแขก หรือจะเลือกรับประทานยาสมุนไพรตำรับอย่าง ตรีผลา ก็จะช่วยระบายและยังช่วยปรับธาตุให้สมดุลได้อีกด้วย ยาสมุนไพรทั้งสองชนิดหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป แต่ทางที่ดีควรพบแพทย์แผนไทยเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโรค ข้อแนะนำ รวมไปถึงข้อควรระวังในการกินยา เพื่อประสิทธิผลสูงสุดของยาที่รับประทาน และเพื่อไม่ให้อาการเจ็บป่วยลุกลามจนเป็นสาเหตุของโรคร้ายที่ยากจะรักษา
ผู้เขียน พท. สุนทรี พีรกุล เวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย
บรรณาธิการ พาฝัน รงศิริกุล
ขอบคุณเครดิตเจ้าของภาพประกอบ
ทางสมาพันธ์การแพทย์แผนไทยล้านนา นำเสนอบทความเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ ไม่ได้แสวงผลประโยชน์ใดๆ
http://www.baanmaha.com/community/threads/48827
http://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539374211&Ntype=36
http://thearokaya.co.th/web