กัวซากับโรคปวดเมื่อย
ถ้ากล่าวถึงโรคปวดเมื่อย พูดได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้ และคนส่วนมากเคยเป็นโรคนี้ แต่จะมีอาการเจ็บปวดมากหรือน้อยขึ้นกับปัจจัยของวัย ด้วยทฤษฏีการแพทย์แผนไทย คนที่มีอายุเกิน 32 ปี เข้าสู่วัยธาตุลมหย่อน โดยเฉพาะธาตุลมในกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยืดหยุ่นลดลง ความสามารถในการเคลื่อนไหว การใช้แรงกล้ามเนื้อจึงลดลงด้วยและการขับพิษหรือของเสียออกก็ลดลงเช่นกัน จึงมีอาการปวดเมื่อยเกิดขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งคืออาชีพ ซึ่งอาชีพเป็นสิ่งกำหนดอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง ดังเช่นพนักงานคอมพิวเตอร์ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆในอิริยาบทเดิมๆ คอ มือ นิ้ว ดวงตาต้องทำงานหนัก เป็นต้น การอยู่ในอิริยาบทเดิมนานๆทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต้องทำงานหนักเกินกำลัง เกิดพิษสะสม จึงมีอาการเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อตึง บีบรัดเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี เกิดอาการปวดนานไปจะมีอาการชาร่วมด้วย
การออกกำลังกายเพื่อให้เหงื่อออกเป็นวิธีหนึ่งของการขับพิษออกทางผิวหนัง ซึ่งวิถีชีวิตในปัจจุบันวุ่นวายกับการงานจึงให้เวลากับการออกกำลังกายลดลง ความเจ็บป่วยก็มากขึ้นโดยเฉพาะโรคปวดเมื่อย เมื่อเริ่มมีอาการปวดเล็กน้อยไม่ค่อยใส่ใจดูแลรักษา จนอาการปวดเพิ่มมากขึ้นจึงเริ่มใส่ใจดูแลรักษา ซึ่งหมายความว่ามีพิษสะสมมากขึ้น สำหรับวิธีการรักษา
- กำจัดพิษที่สะสมในกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการกำจัดพิษออกโดยวิธีกัวซา
- กินยาสมุนไพรเพื่อเพิ่มธาตุลมในเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดและลมไหลเวียนเป็นปกติ แก้อาการปวดเมื่อย
กัวซา คือหนึ่งในภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้านที่ตกทอดมาตั้งแต่โบราณอีกหนึ่งอย่างของชาวจีน คำว่า “กัว” ในภาษาจีนหมายถึงการขูด ส่วนคำว่า “ซา” หมายถึงพิษ การกัวซา จึงหมายถึงการขูดเพื่อขับสารพิษออกทางผิวหนัง ซึ่งปรากฏบนผิวหนังเป็นรอยผื่นหรือจ้ำสีแดง
บทบาทของการกัวซาคือการกระจายและทำให้เลือดลมไม่ติดขัด กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต การไหลเวียนที่ดีจะทำให้เม็ดเลือดแดงนำออกซิเจนมาเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้น และเม็ดเลือดขาวไหลเวียนดีขึ้นด้วยจึงเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้เชื้อโรคได้ดีขึ้น ทำให้สุขภาพแข็งแรง ส่งเสริมการไหลเวียนของพลังลมปราณ ขับพิษ ซึ่งเป็นเหตุของความเจ็บป่วยหรือเจ็บปวดโรคที่บำบัดด้วยกัวซาได้ผลดีที่สุด คือ ปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ ปวดบ่า ปวดศรีษะ ปวดแขน ปวดสะโพก หรือชาตามร่างกาย
ขณะกัวซ่าบริเวณที่มีพิษสะสมหรือลมปราณติดขัดผู้ป่วยจะรู้สึกปวด ต่อเมื่อเกิดจ้ำผื่นแดงอาการปวดจะลดลงเพราะพิษถูกขับออกทางผิวหนังและลมปราณไหลได้สะดวก จะรู้สึกเบาสบาย ความเจ็บปวดเรื้อรังจะลดลงมาก และค่อยๆหายไปในวันรุ่งขึ้น การกัวซาจะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ทันที การกินยาสมุนไพรประเภทขับการไหลเวียนของเลือดและลมจะช่วยให้ การสะสมของพิษเกิดได้ยาก ป้องกันการเกิดอาการเจ็บปวด โดยเฉพาะคนในวัยอายุเกิน 32 ปี เป็นธรรมชาติของคนในวัยนี้ที่ธาตุลมไหลเวียนไม่ดี การสะสมของพิษในกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเกิดได้ง่ายกว่าคนในวัยอื่น จึงควรกินยาสมุนไพรร่วมกับการกัวซา
สมุนไพรหรืออาหารที่ช่วยขับเลือดลมได้แก่สมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า ตะไคร้
ใบมะกรูด กระช่าย กระเพรา โหราพา แมงลัก ใบยี่หร่า พริกไทย เป็นต้น กรณียาสมุนไพรตำหรับซึ่งเข้าสมุนไพรหลายตัวที่ใช้รักษาอาการปวดเมื่อยต้องปรึกษาแพทย์แผนไทยเพื่อการใช้ยาอย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อให้เกิดผลการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการมีชีวิตที่มีความสุขห่างไกลโรคภัย
ผู้เขียน พท. สุนทรี พีรกุล สาขาเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย
อ้างอิง หนังสือ กัวซาบำบัดขจัดสารพัดโรค ผู้เขียน ธีระศักดิ์ วัณนาวิบูล
ขอบคุณ รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต